Sunday, September 11, 2011

อยากดู 3D ต้องทำยังไง?

ไม่ได้อัพเดท blog กันนานเลย วันนี้จะขอกลับมาอัพเดทด้วยเรื่องที่ถูกถามกันมากที่สุดในวงการ 3D Stereoscopic กันนะคะ คำถามนั้นก็คือ อยากดูหนัง 3 มิติ ต้องทำยังไง หลายคนบอกจะยากอะไรก็เดินเข้าโรงหนัง 3 มิติสิมีเยอะแยะมีจนไป 4มิติ แล้ว แน่นอนเราไม่ได้หมายถึงเดินเข้าโรงหนังคะ อันนั้นมันง่ายไป(ค่าตั๋วแพงอีกต่างหาก) เราหมายถึงอยากเซทไว้ดูที่บ้านอยากดูจาก DVD ทีอุตส่าห์ไปหามา

จริงๆมีบทความเก่าๆเคยเขียนบ้างอาจไม่ตรงทั้งหมด แต่จะขอเรียนว่าเทคโนโลยีเปลี่ยนทุกๆ 6 เดือนของบางอย่างที่ยังไม่เคยมีก็ได้จุติขึ้นมาทำให้กระบวนการการดูก็เปลี่ยนไป บทความนี้ก็จะขอพูดถึงเทคโนโลยีที่มีกันนะตอนนี้ ใครกลับมาอาจ 6 เดือนหลังจากนี้ก็คงล้าสมัยเหมือนกันคะ

เอาละคะเรามาเริ่มเลยดีกว่า

วิธีที่ง่ายที่สุดถ้าคุณมีคอมพิวเตอร์ มีจอธรรมดา LED LCD Plasma จอคอม จอแบน จอบวม และมี Power DVD version 10 Mark II ขึ้นไป หรือ โปรแกรมอื่นก็เช่น Stereoscopic Player, Stereo Movie Player เป็นต้น "แล้วอย่าลืม source หนังที่เป็น 3 มิติ ด้วยนะจ้ะ" (ทำเสียงเหมือหนูนาในกวนมึนโฮ) เท่านี้ก็สามารถดูได้แล้วคะ แต่แว่นที่ใช้ต้องเป็นแว่น 3 มิติแดงฟ้าเท่านั้นนะคะ อย่าหลงไหลไปกับเมนูอื่นใน list ถ้าคุณ ไม่มี hardware ที่สนับสนุนคุณสมบัติตามใน List ดูไม่ได้คะ "เน้นว่าดูไม่ได้" มีคุณลูกค้าหลายท่าน(มาก)เป็นหน่วยกล้าตาย ลองให้ทุกท่านทราบแล้วโดยการหิ้วโน็ตบุ๊คมาที่ร้านพร้อมกับความมุ่งมั่น แต่ภารกิจก็ต้องล่าถอยเพราะทำไม่ได้จริงๆค่าาาาา



ถ้าอยากดูให้มันเจ๋งกว่าการใช้แว่น 3 มิติ แดงฟ้าทำไงดีก็มีหลากหลายวิธีนะคะขึ้นอยู่กับเงินทุนที่มี การใช้งานและความชอบส่วนบุคคล มาไล่เป็นข้อๆกันนะคะ

1.ซื้อจอ 3D เลย จอโทรทัศน์หรือจอคอมพิวเตอร์ก็ว่ากันไป จอพวกที่ว่านี้จะมี Refreshing rate 120 hz ขึ้นไป ซึ่งแน่นอนว่าสูงกว่าจอรุ่นเก่าๆแน่ ถ้าเป็นจอโทรทัศน์ 3 มิติ มีเครื่องเล่น DVD 3D Bluray หรือกล่อง HD Box ไม่ต้องมีคอมพิวเตอร์ก็ดูได้คะ แต่ถ้ามีจอคอม 3 มิติ มีคอมพิวเตอร์มีซอฟแวร์ที่เล่นหนัง 3 มิติได้ก็ดูได้เหมือนกันคะ

ขอบคุณรูปภาพจากเวป LG และ Samsung นะคะ


จอโทรทัศน์ก็ยังแยกออกเป็น 2 ระบบนะคะ คือแบบ Active และแบบ Passive แล้วจะรู้ยังไงอันไหนเป็นอันไหน สังเกตุง่ายๆจอไหนใช้กับแว่น 3 มิติใส่ถ่านคือ Active ถ้าแบบแว่นไม่ใส่ถ่านเป็น Active ตอนนี้ในท้องตลาดจอทีวีที่เป็นเป็น Passive ก็มีของ LG ส่วนยี่ห้ออื่น(รวมทั้ง  LG ) ยังยืนหยัดทำการตลาดในส่วนของ Active ต่อไป ยี่ห้อสุดฮิต Samsung ยังไม่เคยเห็นจอ Passive เลยคะ Sony กับ Panasonic ในตลาดผู้ใช้ตามบ้านก็เห็นแต่ Active แต่ไม่ใช่ว่าเค้าไม่ผลิตระบบ Passive นะคะ ผลิตแต่เอาไว้สำหรับ Hi-End พวกสตูดิโอโปรดักชั่นต่างๆ

จอยี่ห้อไหนก็ต้องใช้กับแว่น 3 มิติยี่ห้อนั้นนะคะจะใช้ข้ามยี่ห้อไม่ได้

ในรายละเอียด Active ต่างจาก Passive อย่างไร
1. ข้อแรกเลยนะคะที่มีผลกระทบต่อผู้บริโภคมากที่สุดคือราคาแว่น 3 มิติ แว่น 3 มิติ Active ราคาจะสูงกว่า แบบ Passive มาก แว่น Active เป็นหลักพัน(ถึงหลายพัน)แต่ แว่น Passive หลักร้อยคะ
2. แว่น Active ต้องอาศัยอิเลคโทรนิคในการ sync สัญญาณ หลายคนอาจดูแล้วมึนกับวิธีการนี้
3. แต่ไม่ใช่ระบบ Active จะไม่มีดีนะคะ ระบบ Active ทำให้เราดูภาพเป็น FullHD คะ หนังที่เล่นไม่จำเป็นต้อง side by side จอจะไม่ถูกแบ่งครึ่ง ซ้ายก็เป็น HD ขวาก็เป็น HD คะ 

2.ซื้อ Projector รุ่นที่เป็น 3D Ready มีหลายยี่ห้อคะ เช่น Acer BenQ วิธีนี้มี Projector มีแว่น 3 มิติ Active DLP Link ก็ดูได้แล้วคะ Projector จะมีระบบการ sync กับแว่น DLP Link คะ สามารถต่อออกจาก computer(แต่ต้องมีการ์ดจอที่แรง 120 hz ขึ้นไป การ์ดจอปัจจุบันส่วนมาก support หมดแล้ว) หรือ Bluray 3D Player คะ



3.NVidia 3D Vision วิธีนี้คือหันมาเป็นสาวก nVidia กันคะ สิ่งที่ สาวก nVidia ต้องมีก็คือจอภาพที่มี  Refreshing rate 120 hz ขึ้นไปอันนี้ยี่ห้ออะไรก็ได้, การ์ดที่มีชิพเซทของ nVidia และแว่นตา 3 มิติของ nVidia คะ มีที่ว่ามานี้ก็สามารถจะดูหนังเล่นเกมส์เป็น 3D ได้แล้วคะ
รูปภาพจาก http://www.videomaker.com/article/15248/


นอกจากยี้ก็ยังมีวิธีอื่นอยู่บ้างแต่ขอเก็บไว้เขียนเป็นหัวข้อต่างหากนะคะ

สิ่งที่ต้องขอย้ำที่สุดคือ Source หนัง ที่ดีที่สุดควรหนัง 3 มิติ ที่ถ่ายทำมาจริงๆ หนังที่แปลงมาดูยังไงก็ไม่ประทับใจเท่าที่เค้าลงทุนทำมาจริงๆ 

ลองดูนะคะใครมีอุปกรณ์อะไรแบบใน list ที่กล่าวมา ลองวางแผนการลงทุนดูว่าอันไหนจะเหมาะกับเราที่สุด ถ้าไม่ลงทุนเพิ่มก็ไม่เป็นไรดูแดงฟ้ากันต่อไปจ้า...



0 comments:

Post a Comment