Sunday, October 30, 2011

แว่น 3 มิติ สำหรับ TPBS 3D




ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ทางทีวีช่อง TPBS  มีรายการสารคดี 3D(ออกอากาศวันอาทิตย์ 18.30น) การดูสารคดีดังกล่าวทาง TPBS แจ้งว่าต้องใช้แว่นประเภทหนึ่งในการรับชม แว่นที่ว่าถ้าดูเผินๆค่อนข้างประหลาด ตัวแว่นจะมีเลนส์ข้างหนึ่ง อีกข้างไม่มี ตอนที่ผมเห็นแว่นนี้ครั้งแรก ก็งงเหมือนกันครับ ไม่น่าจะดูเป็น3มิติได้ แตพอเอาลองเอาแว่นมาดูกับหนัง ก็ใช้ได้เลยทีเดียว เป็นผลออกมาเป็น 3 มิติเลย
แว่น  Pulfrich ที่มีเลนส์ดำทางขวา (right dark)

แว่นประหลาดที่ไทยพีบีเอสแจกนั้น มีใช้กันมานานแล้วครับ(ประมาณ 20 ปี) ชื่อสากลจะเรียกว่า 3D Pulfrich Glasses แต่ไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายเนื่องจากข้อจำกัดหลายๆอย่าง สามารถดูได้จากจอโทรทัศน์ทั่วไป

ชื่อ Pulfrich ก็เป็นชื่อที่ตั้งเพื่อเป็นเกียรติแก่นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน Carl Pulfrich ที่ค้นพบเอเฟคนี้ครับ น่าเสียดายที่ Pulfrich ไม่เคยได้ใช้แว่นที่เป็นผลพวงจากการค้นพบของเขา

หลักการทำงานของแว่นนี้ก็ง่ายมากครับ คือ สมองคนเราจะรับรู้ภาพที่มืดได้ช้ากว่าภาพที่สว่าง หรือกล่าวง่ายๆคือสมองจะตีความภาพจากตาที่มีฟิลเตอร์ดำได้ช้ากว่าตาที่ไม่มีฟิลเตอร์  ซึ่งการรับรู้ของสมองที่แตกต่างกันดังกล่าวก่อให้เกิดความลุึกครับ (หลักการของภาพ3มิติคือการที่ตาซ้ายและขวารับรู้ภาพที่ต่างกันครับ จะได้ตีความต่างนั้นออกมาเป็นความลึก)

ถ้าสังเกตุให้ดี หนังที่ใช้แว่นแบบนี้จะมีการเคลื่อนที่ในแนวนอนเท่านั้นครับ(ซ้ายไปขวาหรือจากขวาไปซ้าย) ไม่มีการเคลื่อนที่ในแนวตั้ง(ขึ้นลง) อันนี้เป็นข้อจำกัดของการแสดงภาพ 3 มิติแบบนี้ครับ
อย่างของไทยพีบีเอสเอง ถ้าสังเกตุให้ดี shot ที่เป็น 3 มิติ จะมีการเคลื่อนที่ของวัตถุ จากซ้ายไปขวาเท่านั้นครับ ซึ่ง shot ดังกล่าวจะมี logo 3D ขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นว่าต้่องใส่แว่นดูครับ

เราลองมาดูคลิปตัวอย่างกันครับ

  • อันนี้ต้องใช้แว่นที่มีเลนส์ดำทางขวาครับ การเคลื่อนที่ของวัตถุไปทางไหนก็ให้ใส่เลนส์ดำทางด้านนั้น เช่นตัวอย่างข้างบน กล่องเคลื่อนที่จากซ้ายไปขวา ดังนั้นต้องใส่เลสน์ดำทางด้านขวา

ใช้แว่นที่มีเลนส์ขวาดำ (right dark) แบบเดียวกับไทยพีบีเอส

แว่นที่มีเลนส์ขวาดำ(right dark)

  • ตัวอย่างนี้ต้องใช้แว่น 3 มิติที่มีเลนส์ดำอยู่ทางด้านซ้ายครับ วัตถุ(ที่เป็นโฟกราวด์) เคลื่อนที่จากขวาไปซ้าย



ใช้แว่นที่มีเลนส์ซ้ายดำ (left dark) แว่น 3 มิติของไทยพีบีเอสดูไม่ได้ครับ


แว่นที่มีเลนส์ซ้ายดำ(left dark)
แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าหากการเคลื่อนที่ของวัตถุหยุดลง.......  ลงกดหยุดภาพ(pauses) ดูครับ  คำตอบคือ ภาพก็จะไม่เป็น 3 มิติครับ เป็นแค่ 2 มิติธรรมดา  อันนี้ก็เป็นข้อจำกัดอีกอย่างหนึง

เมื่อเราทราบถึงทฤษฏีแล้ว ที่นี้เราก็สามารถที่จะทำวิดีโอ 3 มิติตามหลักการดังกล่าวขึ้นเอง ลองมาถ่ายวิดีโอ 3 มิติ จากกล้องจริงเลยดีกว่า สามารถใช้กล้องจากโทรศัพท์มือถือ กล้องดิจิตอล หรือกล้อง วิดีโอ 1 ตัวครับ

หลักของการถ่าย 3 มิติที่ดีคือ เราต้องแบ่งวัตถุในซีน(scene) ออกเป็น 3 ประเภทคือ foreground , Object และ background การเคลื่อนที่ของกล้องตามรูปข้างล่าง (จากจุด 1 ไป 2 ไป3) โดยพยายามให้ object เป็นจุดสนใจของกล้อง (เลี้ยงเฟรม Object) และให้ foreground วิ่งผ่านหน้ากล้อง จากซ้ายไปขวา ส่วน background ก็วิ่งจากขวาไปซ้าย

การเคลื่่อนกล้องจาก 1 ไป 2 ไป 3 โดยเลี้ยงเฟรม ที่ Object


เมื่อได้แว่น 3 มิติมาแล้ว เรามาลองเข้าไปหาหนัง 3 มิติใน youtube กันเลยดีกว่าครับ





ในส่วนของแว่นก็สามารถจะเขียนจดหมายไปขอได้ที่ไทยพีบีเอส (TPBS) อย่าลืมวงเล็บมุมซองว่า “ขอแว่น 3 มิติ” ด้วยครับ หรือหากเราจะทำเองก็ไม่ยากครับ หาแว่นตากันแดดที่ไม่ใช้แล้วมา จากนั้นเอาเลนส์ข้างซ้ายออกไป เท่านี้ก็จะได้แว่น 3 มิติสำหรับ TPBS แล้วครับ

หรือที่ร้านของเราจะมีรุ่นที่สารพัดประโยชน์ เป็นแว่น 3มิติ แบบแดงฟ้าได้, เป็นแว่นกันแดด, และใช้ชม รายการของไทยพีบีเอสได้โดยใส่เลนส์กันแดด 1 ข้าง




Monday, September 26, 2011

3D PROJECTION MAPPING สีสันใหม่ของวงการอีเวนท์ไทย

ในวงการโฆษณา, อีเวนท์ไทย กำลังให้ความสนใจ 3D projection Mapping (หรือ 3d video mapping) ซึ่งก็คือการฉายภาพจากโปรเจคเตอร์(อาจจะใช้ตัวเดียวหรือหลายตัว) ลงบนวัตถุ ซึ่งอาจจะเป็นตัวสินค้าเอง, เสาหรือผนัง ทำให้วัตถุดูเหมือนมีชีวิต มีการเคลื่อนไหว เป็นการเพิ่มสีสันให้กับตัวสินค้า ความจริง 3D Projection Mapping ในต่างประเทศนั้นมีมาค่อนข้างนานแล้วครับ(ประมาณ 4-5ปี) ในบ้านเราก็เพิ่งจะเริ่มๆ
หลักการคร่าวๆ สำหรับ 3D Projection Mapping ก็คือ การสร้างวัตถุในโปรแกรม 3 มิติให้มีขนาด มิติ กว้างยาวเท่ากับวัตถุจริง จากนั้นก็ใส่สีสัน ภาพเคลื่อนไหวต่างๆ ลงบนวัตถุ 3 มิติ แล้วจึง render ภาพ จากมุมมองของ Projector เมื่อได้ภาพมาแล้ว ก็ Project กับไปบนวัตถุจริง สิ่งที่ยากที่สุดก็คือ การทำให้ภาพจากโปรแกรม 3 มิติ พอดีกับวัตถุจริงครับ ต้องมีการคิด Lens distortion รวมถึง Perspective ต่างๆด้วย

ผมมีตัวอย่างของ 3D projection mapping มาให้ดูครับ


อันนี้เป็นโฆษณารถ Toyota Auris Hybrid


3d projection mapping ลงบนรองเท้า New balance sneaker promo ดูแล้วน่าสนใจดี


Video Mapping 3d sculpture จาก StudioRewind โปรเจคลงบนรูปปั้น

3d projection mapping ลงบนเพดานบ้าน


3d video mapping บนตึก โฆษณาหนังเรื่อง The tourist


KOHAR 3D Mapping at Opera, Yerevan 28 May 2011


ดูตรงช่วงท้ายๆครับ เจ๋งดี


อันนี้ 3D video mapping จาก 3DTV-tech ครับ

Sunday, September 11, 2011

อยากดู 3D ต้องทำยังไง?

ไม่ได้อัพเดท blog กันนานเลย วันนี้จะขอกลับมาอัพเดทด้วยเรื่องที่ถูกถามกันมากที่สุดในวงการ 3D Stereoscopic กันนะคะ คำถามนั้นก็คือ อยากดูหนัง 3 มิติ ต้องทำยังไง หลายคนบอกจะยากอะไรก็เดินเข้าโรงหนัง 3 มิติสิมีเยอะแยะมีจนไป 4มิติ แล้ว แน่นอนเราไม่ได้หมายถึงเดินเข้าโรงหนังคะ อันนั้นมันง่ายไป(ค่าตั๋วแพงอีกต่างหาก) เราหมายถึงอยากเซทไว้ดูที่บ้านอยากดูจาก DVD ทีอุตส่าห์ไปหามา

จริงๆมีบทความเก่าๆเคยเขียนบ้างอาจไม่ตรงทั้งหมด แต่จะขอเรียนว่าเทคโนโลยีเปลี่ยนทุกๆ 6 เดือนของบางอย่างที่ยังไม่เคยมีก็ได้จุติขึ้นมาทำให้กระบวนการการดูก็เปลี่ยนไป บทความนี้ก็จะขอพูดถึงเทคโนโลยีที่มีกันนะตอนนี้ ใครกลับมาอาจ 6 เดือนหลังจากนี้ก็คงล้าสมัยเหมือนกันคะ

เอาละคะเรามาเริ่มเลยดีกว่า

วิธีที่ง่ายที่สุดถ้าคุณมีคอมพิวเตอร์ มีจอธรรมดา LED LCD Plasma จอคอม จอแบน จอบวม และมี Power DVD version 10 Mark II ขึ้นไป หรือ โปรแกรมอื่นก็เช่น Stereoscopic Player, Stereo Movie Player เป็นต้น "แล้วอย่าลืม source หนังที่เป็น 3 มิติ ด้วยนะจ้ะ" (ทำเสียงเหมือหนูนาในกวนมึนโฮ) เท่านี้ก็สามารถดูได้แล้วคะ แต่แว่นที่ใช้ต้องเป็นแว่น 3 มิติแดงฟ้าเท่านั้นนะคะ อย่าหลงไหลไปกับเมนูอื่นใน list ถ้าคุณ ไม่มี hardware ที่สนับสนุนคุณสมบัติตามใน List ดูไม่ได้คะ "เน้นว่าดูไม่ได้" มีคุณลูกค้าหลายท่าน(มาก)เป็นหน่วยกล้าตาย ลองให้ทุกท่านทราบแล้วโดยการหิ้วโน็ตบุ๊คมาที่ร้านพร้อมกับความมุ่งมั่น แต่ภารกิจก็ต้องล่าถอยเพราะทำไม่ได้จริงๆค่าาาาา



ถ้าอยากดูให้มันเจ๋งกว่าการใช้แว่น 3 มิติ แดงฟ้าทำไงดีก็มีหลากหลายวิธีนะคะขึ้นอยู่กับเงินทุนที่มี การใช้งานและความชอบส่วนบุคคล มาไล่เป็นข้อๆกันนะคะ

1.ซื้อจอ 3D เลย จอโทรทัศน์หรือจอคอมพิวเตอร์ก็ว่ากันไป จอพวกที่ว่านี้จะมี Refreshing rate 120 hz ขึ้นไป ซึ่งแน่นอนว่าสูงกว่าจอรุ่นเก่าๆแน่ ถ้าเป็นจอโทรทัศน์ 3 มิติ มีเครื่องเล่น DVD 3D Bluray หรือกล่อง HD Box ไม่ต้องมีคอมพิวเตอร์ก็ดูได้คะ แต่ถ้ามีจอคอม 3 มิติ มีคอมพิวเตอร์มีซอฟแวร์ที่เล่นหนัง 3 มิติได้ก็ดูได้เหมือนกันคะ

ขอบคุณรูปภาพจากเวป LG และ Samsung นะคะ


จอโทรทัศน์ก็ยังแยกออกเป็น 2 ระบบนะคะ คือแบบ Active และแบบ Passive แล้วจะรู้ยังไงอันไหนเป็นอันไหน สังเกตุง่ายๆจอไหนใช้กับแว่น 3 มิติใส่ถ่านคือ Active ถ้าแบบแว่นไม่ใส่ถ่านเป็น Active ตอนนี้ในท้องตลาดจอทีวีที่เป็นเป็น Passive ก็มีของ LG ส่วนยี่ห้ออื่น(รวมทั้ง  LG ) ยังยืนหยัดทำการตลาดในส่วนของ Active ต่อไป ยี่ห้อสุดฮิต Samsung ยังไม่เคยเห็นจอ Passive เลยคะ Sony กับ Panasonic ในตลาดผู้ใช้ตามบ้านก็เห็นแต่ Active แต่ไม่ใช่ว่าเค้าไม่ผลิตระบบ Passive นะคะ ผลิตแต่เอาไว้สำหรับ Hi-End พวกสตูดิโอโปรดักชั่นต่างๆ

จอยี่ห้อไหนก็ต้องใช้กับแว่น 3 มิติยี่ห้อนั้นนะคะจะใช้ข้ามยี่ห้อไม่ได้

ในรายละเอียด Active ต่างจาก Passive อย่างไร
1. ข้อแรกเลยนะคะที่มีผลกระทบต่อผู้บริโภคมากที่สุดคือราคาแว่น 3 มิติ แว่น 3 มิติ Active ราคาจะสูงกว่า แบบ Passive มาก แว่น Active เป็นหลักพัน(ถึงหลายพัน)แต่ แว่น Passive หลักร้อยคะ
2. แว่น Active ต้องอาศัยอิเลคโทรนิคในการ sync สัญญาณ หลายคนอาจดูแล้วมึนกับวิธีการนี้
3. แต่ไม่ใช่ระบบ Active จะไม่มีดีนะคะ ระบบ Active ทำให้เราดูภาพเป็น FullHD คะ หนังที่เล่นไม่จำเป็นต้อง side by side จอจะไม่ถูกแบ่งครึ่ง ซ้ายก็เป็น HD ขวาก็เป็น HD คะ 

2.ซื้อ Projector รุ่นที่เป็น 3D Ready มีหลายยี่ห้อคะ เช่น Acer BenQ วิธีนี้มี Projector มีแว่น 3 มิติ Active DLP Link ก็ดูได้แล้วคะ Projector จะมีระบบการ sync กับแว่น DLP Link คะ สามารถต่อออกจาก computer(แต่ต้องมีการ์ดจอที่แรง 120 hz ขึ้นไป การ์ดจอปัจจุบันส่วนมาก support หมดแล้ว) หรือ Bluray 3D Player คะ



3.NVidia 3D Vision วิธีนี้คือหันมาเป็นสาวก nVidia กันคะ สิ่งที่ สาวก nVidia ต้องมีก็คือจอภาพที่มี  Refreshing rate 120 hz ขึ้นไปอันนี้ยี่ห้ออะไรก็ได้, การ์ดที่มีชิพเซทของ nVidia และแว่นตา 3 มิติของ nVidia คะ มีที่ว่ามานี้ก็สามารถจะดูหนังเล่นเกมส์เป็น 3D ได้แล้วคะ
รูปภาพจาก http://www.videomaker.com/article/15248/


นอกจากยี้ก็ยังมีวิธีอื่นอยู่บ้างแต่ขอเก็บไว้เขียนเป็นหัวข้อต่างหากนะคะ

สิ่งที่ต้องขอย้ำที่สุดคือ Source หนัง ที่ดีที่สุดควรหนัง 3 มิติ ที่ถ่ายทำมาจริงๆ หนังที่แปลงมาดูยังไงก็ไม่ประทับใจเท่าที่เค้าลงทุนทำมาจริงๆ 

ลองดูนะคะใครมีอุปกรณ์อะไรแบบใน list ที่กล่าวมา ลองวางแผนการลงทุนดูว่าอันไหนจะเหมาะกับเราที่สุด ถ้าไม่ลงทุนเพิ่มก็ไม่เป็นไรดูแดงฟ้ากันต่อไปจ้า...



Monday, August 15, 2011

งานสัปดาห์วิทยาศาสร์@ไบเทค 2011

พาไปเที่ยวงานสัปดาวิทยาศาสตร์ที่ Bitec คะ งานนี้มีหลายมุมที่มีภาพ 3 มิติให้ชมกัน มีโรงหนัง 3 มิติ 2 โรงคะ ไปมาวันเสาร์คนอาจจะดูโล่งไปหน่อย วันธรรมดาคงมีนักเรียนมาดูกันเยอะ

ด้านหน้าทางเข้า

มุมตรงกลางเป็นบริเวณเรื่องราวในหลวงที่เกี่ยวของกับวิทยาศาสตร์ไทย

อันนีมุม 4D เสนอเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก
ใครจะเข้าไปขอเตือนมีเปียกเล็กๆนะคะ

ใช้แว่น Polarized ในการรับชม(จาก3DTV-Techคะ )

ตู้นี้น่าสนใจมากคะ concept เป็นเลิศ แต่ดูท่าทางการใชงานจริงน่าจะต้องพัฒนาอีกเยอะ ผู้ใดต้องการลงทุนตู้ละ 4 แสน วิธีใช้สามารถเอาขวดพลาสติกไปหยอดตู้แล้วแลกเป็นเงินคืนมาเหมือนเอาขวดไปขายของเก่าคะ

มีมุมน้องๆทำแว่น 3 มิติกันเอง น่าสนุกนะคะ

อันนี้เป็นภาพในโรง 3D คะ






Saturday, July 9, 2011

เที่ยวงาน Broadcast Asia 2011 ที่สิงคโปร์ ภาค 1


   เนื่องด้วยผู้เขียน ได้มีโอกาสไปงาน Broadcast Asia 2011 ที่ประเทศสิงคโปร์ 3 วัน ความรู้เกี่ยวกับ Stereoscopic ได้มาเพียบ ต้องการจะมา share ครับ
   ผมขอแยกบทความออกเป็น 2 ตอนครับ คือ ตอนแรกเป็นบรรยากาศในงานทั่วๆไป ตอนที่สองจะเป็นเกี่ยวกับ Stereoscopic 3D ถ่ายรูปมาเยอะจริงๆ เรามาเิริ่มตอนแรกกันก่อนเลย


ตึก SunTec สถานที่จัดงาน นี้เป็นปีแรกทีย้ายจาก Singapore expo มาจัดที่ Marina bay sand ซืึ่งถือว่าสถานที่เล็กกว่าปีก่อนๆเยอะ แต่มีความสะดวกในการเดินทางมากครับ ใกล้ห้าง ใกล้โรงแรม ใกล้สถานที่กิน
บรรยากาศหน้างาน ต้องลงทะเบียนก่อนครับ วันนี้เป็นวันแรกของงาน

เครื่องแก้สี Resolve ราคาที่ใครๆเอื้อมถึง

พระเอกของเรา Arri Alexa กล้อง digital ของ Arri ภาพที่ได้เนียนมาก ในเมืองไทยมี 10 ตัวแล้ว

Rig กล้อง DSLR สังเกตุว่า หลายบริษัทมุงที่จะทำ rig สำหรับกล้องพวกนี้เยอะ เนื่องจากเจาะกลุ่มตลาดล่างได้ดีมากๆ

เดินเที่ยวงานได้ไม่เท่าไร ก็ 6 โมงเย็นแล้ว ผู้เขียนเลยเดินเที่ยวบริเวณรอบๆงาน ภาพนี้เป็นสัญลักษณ์ของสิงคโปร 
 ใครไม่ได้รูปนี้ ถือว่ามาไม่ถึงสิงคโปร์

อีกมุมหนึง สิงโตพ่นน้ำ

สิงคโปร์ยามเย็น ในภาพทางซ้ายมือ คือตึกทุเรียนสำหรับแสดงคอนเสริท ศิลปะ นิทรรศการ

หิวแล้ว กินร้านอาหารแถวนั้นเลย บรรยากาศดีมากๆ IndoChine วันนี้ขอกินแบบหรูนิดนึง  

บรรยากาศภายในร้าน เชฟเป็นคนไทยครับ  อาหารส่วนมากก็เป็นอาหารไทย  แต่เจ้าของไม่ใช่ 

โทษที ลืมถ่ายภาพอาหารครับ อิ่มแล้วเพึ่งนึกขึ้นได้
  อันนี้เป็นของหวานตบท้าย ไอติมกับฟักทอง

สามคนนี้คุยกันมาหลายปีแล้ว ไม่จบซักที หลายปีแล้วนะ

ถ่ายจาำกห้องพัก ที่โรงแรมครับ

วิวเห็น Marina bay


อุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือเพียบ

ส่วนของบริษัท Cine บริษัทยักษ์ใหญ่ทางด้านกล้อง อุปกรณ์

อุปกรณ์เต็มเลย  ใครอยู่ในวงการคงรู้จักกันดี

ปีนี้ Rig สำหรับกล้อง DSLR เยอะจริงๆ


Rig นี้เลียนแบบกล้องหนัง มีทั้ง Focus puller แถมมีจอภาพให้ดูด้วย

กล้องเฮลิคอปเตอร์ จากมุมสูง ที่เห็นกลมๆแดง เป็นกล้องครับ สามารถใส่กล้องอะไรก็ได้ น้ำหนักไม่เกิน 5 กก

หมดไปอีกวัน เดินไปเิดินมาก็เจอซีฟูดราคาถูก ต้องลองซักหน่อยแล้ว คนเยอะจริงๆ แต่เป็นระเบียบมาก

ภาพบรรยกาศ คล้ายๆโต้รุ่งบ้านเราครับ แต่ดูเป็นระเบียบมาก

ปูผัดพริกไทยดำ อร่อยมากๆ 

อันนี้ไม่รู้ครีปอะไร แต่อร่อยดีครับ

เดินย่อยอาหาร มีการจัดการแสดงเลเซอร์ แสง-สี-เสียง ด้วย อลังการจริงๆ

บรรยากาศในเมือง 

บรรยากาศในเมือง 2 
บรรยากาศในเมือง 

ในห้าง Marina bay ที่มีเรือวางอยู่บนตึก ใหญ่มากๆ

ด้านหน้าของ Marina Bay เป็นลานไม้กว้างมากครับ

ร้านอาหารใน Marina Bay


ใครชอบเค็ก เชิญทางนี้ครับ ราคาค่อนข้างแพง ถ่ายมาแต่รูปก็พอ

บรรยากาศ ร้านอาหารภายในห้าง Marina bay  

ตึกเรือ อีกมุมหนึ่ง ผมว่ามันเหมือนกล้วยนะ   
ตอนนี้เกือบเที่ยงคืนแล้ว ผู้คนยังคึกคักอยู่เลย

เช้าวันถัดไป วันนี้ขอเน้นไปที่การสัมมนา ภาพนี้เป็น Media village บูทใหญ่มาก


ตารางการสัมมนาของ Sony ,  ผู้เขียนสนใจ The future of Digital Cinematography และ  Introduction to 3D stereoscopic production อย่างนี้ต้องจัดเสียแล้ว

ตารางการสัมมนาทางวิชาการครับ เราสามารถดูรอบเวลา แล้วเข้าสัมนาได้ครับ  บางคอส์ทต้องเสียเงินครับ แต่ถ้ามาในนามบริษัทก็ลดราคาได้มากอยู่

ภาคแรกของจบแต่เพียงเท่านี้ครับ  รอบหน้าผมขอกล่าวถึง 3D ล้วนๆครับ